หลักเกณฑ์ปฏิบัติตัวสำหรับผู้หญิงที่ไปมัสยิด

หลักเกณฑ์ปฏิบัติตัวสำหรับผู้หญิงที่ไปมัสยิด

โดยอาจารย์อาลี กองเป็ง (ทำกรอบขอบคุณ)

การละหมาดญะมาอะห์โดยเฉพาะในมัสญิดสำหรับเพศชายย่อมได้ผลบุญถือว่าเป็นสุนัตมุอักกัดและมีทัศนะว่าถึงขั้นวาญิบ..

ดังนั้นไม่ถือว่าจำเป็นหรือส่งเสริมแก่บรรดาเพศหญิง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรห้ามเธอจากการไปละหมาดที่มัสยิดหากแม้นว่าการไปมัสยิดของของพวกนางปลอดภัยและไร้ซึ่งฟิตนะห์.. หากแม้นว่ามันไม่ปลอดภัยหรือเกิดฟิตนะห์ก็มิเป็นที่อนุญาตแก่พวกนาง ท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวใว้ความว่า..

พวกท่านอย่าได้ห้ามบรรดาบ่าวหญิงของอัลลอฮฺในการไปยังบรรดามัสยิดของอัลลอฮฺเลยนะ..แต่ให้พวกนางออกไปมัสยิดในสภาพที่ไม่ใส่เครื่องหอม (บันทึกรายงานจากท่านอบูฮุรอยรอฮ์)

และมีรายงานจากท่านอิบนุอุมัร(รฎ.)ว่า..แท้จริงท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวใว้ความว่า..

ท่านทั้งหลายอย่าได้ห้ามบรรดาหญิงของพวกท่านในการไปมัสยิดดเลย แต่ละหมาดที่บ้านของพวกนางมันเป็นเรื่องดีแก่พวกนาง

ฉะนั้นแล้วการละหมาดของพวกนางที่บ้านของพวกนางย่อมเป็นการดียิ่ง ดั่งท่านนบี(ซ.ล)แจงไว้ในหลายตัวบทหะดิษซึ่งมีใจความว่า การละหมาดของหญิงที่บ้านของนางย่อมดีกว่า

ดั่งเช่นมีรายงานจากท่านหญิงอุมุสะลามะฮ์แจงว่าท่านนบีกล่าวใว้ความว่า..ที่ดีแห่งบรรดามัสยิดของหญิงคือมุมหนึ่งในบ้านพวกนาง..

เมื่อเราได้ผนวกระหว่างบรรดาหะดีษจึงเข้าใจได้ว่า เป็นที่อนุญาตแก่เพศหญิงในการไปละหมาดที่มัสยิด แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมและสนับสนุนให้หญิงทำการละหมาดที่บ้าน.

จากเรื่องราวข้างต้นจึงขอนำเสนอทัศณะของบรรดาอุละมาอ์ที่ชี้แจงเอาใว้ในเรื่องดังกล่าว

1.กลุ่มของอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ์แจงว่า

การละหมาดญะมาอะฮ์ไม่จำเป็นเหนือเพศหญิง เพราะการออกไปของหญิงสู่การละหมาดญะมาอะฮ์ อาจก่อให้เกิดฟิตนะฮ์ แต่ทว่าหญิงที่ชราภาพไมเป็นไรที่พวกนางจะออกไปละหมาดที่มัสยิดในเวลามักริบ อิชาอฺและซุบฮิ

  1. กลุ่มอิหม่ามาลิกแจงว่า

เป็นที่อนุญาตให้บรรดาหญิงออกไปสู่มัสยิดเพื่อละหมาดอิชาอฺและทุกๆ เวลาละหมาด

  1. ในรายงานที่มาจากอิบนุ้ลกอเซ็มจากท่านอิหม่ามาลิกแจงว่า..

อย่าห้ามหญิงออกไปมัสยิดเมื่อมีการละหมาดขอฝนหรือละหมาดอีด

  1. กลุ่มอิหม่ามชาฟิอีย์แจงว่า..

ไม่เป็นฟัรฎูอัยน์และไม่เป็นฟัรฎูกิฟายะฮ์แก่หญิงในการละหมาดญะมาอะฮ์ แต่ทว่าเป็นการสมควรแก่เธอในการละหมาดญะมาอะฮ์ แล้วการละหมาดญะมาอะฮ์ในบ้านของนางย่อมดียิ่ง หากหญิงต้องการไปมัสยิดพร้อมกับเพศชายถือว่าน่ารังเกียจในหญิงสาว แต่มิน่ารังเกียจในหญิงชรา..

5..กลุ่มอิหม่ามอะห์มัดแจงว่า..

การละหมาดญะมาอะฮ์ไม่วาญิบเหนือหญิง แต่สุนัต(สมควรยิ่ง)ในการมีละหมาดญะมาอะห์แก่นาง แล้วหากพวกนางรวมตัวกันก็สมควรให้พวกนางทำการละหมาดญะมาอะฮ์ อนึ่งการละหมาดญะมาอะฮ์ของหญิงกับเพศชายที่ล่ำลือในทัศนะะนี้คือมิควรแก่หญิงสาว..

ก็ขอฝากท้ายบทนี้ว่า..การละหมาดญะมาอะฮ์นั้นประเสริฐกว่าการละหมาดคนเดียวถึงยี่สิบเจ็ดเท่า..งั้น..ถ้าหญิงต้องการไปละหมาดญะมาอะฮ์ที่มัสยิด ก็ให้ถามใจตัวเองว่าเจตนาเอาบุญ หรือเอาอื่นนอกจากบุญ..

You may have missed